วันนี้ Backpackbuddy จะมาแชร์ ข้อมูลในการขับรถเที่ยวเกาหลี โดยเฉพาะเกาะ Jeju ด้วยตัวเองกันค่ะ  โดยปกติแล้ว Jeju เป็นที่ที่หลายคนเลือกไปกับทัวร์ ซึ่งสำหรับเราแล้วในทีแรกก็คิดแบบนั้น ทัวร์ถูกดี ไม่ถึงหมื่นก็ไปได้ เก็บที่เที่ยวสำคัญๆ เกือบครบ แต่ต้องทนเข้าร้านขายของเอาหน่อย   แต่เมื่อเราพอลองดูสไตล์การเที่ยวของเราแล้ว ยังไงทัวร์ก็ไม่ตอบโจทย์อยู่ดี

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับขับรถเที่ยว Jeju  4 คน (ผู้ใหญ่ 2 เด็กโต 2 คน) ทริป 4 วัน 3  คืน
ค่าเช่ารถขับ     99,000 วอน ~ 3160 บาท
ค่าน้ำมันประมาณ  28,000 วอน ~ 890 บาท
ค่าโรงแรม 2100+3000+2500 = 7800 บาท
รวม 11850 บาท/ 4 คน = 2962.50 บาท

ถ้าบวกค่าเครื่องบินในประเทศ Seoul-Jeju อีกประมาณคนละ 2500 บาท (ถ้ารอซื้อตอนโปรโมชั่น จะถูกมากกแบบ ราคาต่อเที่ยวคนละ 6-700 บาท 18000 วอนงี้ แต่เราขี้เกียจรอ อยากได้ Flight ที่ต้องการเลยจองไปเลยค่ะ )

เมื่อบวกค่าอาหาร(ที่เข้าร้านอาหารและคาเฟ่ตลอด) เผลอๆ ทัวร์กรุงเทพ – Jeju อาจจะถูกกว่า! แต่แน่นอนว่าเที่ยวเองเราได้ประสบการณ์ที่บันเทิง ลุ้นมากกว่าทัวร์แน่นอน ฮ่า…..


เตรียมตัวก่อนเดินทางขับรถเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง

1.จองรถเช่า ขับรถเที่ยว Jeju ล่วงหน้า

เราสามารถเลือก บ. รถเช่าได้จากในเว็บค่ะ เนื่องจากเราบิน Flight เย็นจาก Seoul (สนามบิน Gimpo)  ไปถึง Jeju ประมาณ 9.30 pm.เราจึงเลือก บ. รถเช่าที่มีในสนามบิน (ทีแรกคิดว่ารับรถได้ในสนามบินเลย) ซึ่ง ตัวเลือกมีได้แก่ SixT / Hertz/AJ / Lotte Rent A CAR   ไรประมาณนี้

เงื่อนไขที่เราใช้พิจารณา บ. เช่ารถ

  1. เว็บเป็นภาษาอังกฤษ ใช้งานง่าย เพราะรายละเอียดในการเช่ารถนั้น เราควรจะอ่านให้ถี่ถ้วน ประกันแบบไหน รวมอะไร หรือไม่รวมอะไรบ้าง  ถ้าเกิดอุบัติเหตุมีค่าเสียหายเบื้องต้นไหม
  2. เปิดดึก สามารถรับรถได้สะดวกที่สนามบินเลย (จากการอ่านรีวิวก่อนไปพบว่า มีคนบอกว่า บางบริษัท ต้องนั่ง shuttle bus ไปจากสนามบิน เพื่อไปที่ศูนย์เช่ารถ และรับรถ แต่เราไปถึงดึกแล้วจึงพยายามเลือกให้สะดวกที่สุด คือรับที่สนามบินได้เลย)
  3. มี GPS ภาษาอังกฤษ
  4. คนขับ 2 คน

เราเมล์ไปถามข้อมูลเรื่องการรับรถ และ GPS จาก Hertz เพราะกลัวว่า GPS จะไม่มีภาษาอังกฤษ ซึ่งตอบไวมาก ดีงามมาก ได้ใจไปเลยเลือก Hertz  ซึ่ง GPS ภาษาอังกฤษที่เราต้องการนั้น ไม่มี มีแต่ GPS เกาหลี แต่สามารถใส่เบอร์โทรศัพท์ได้ และ GPS สามารถพูดบอกทางภาษาอังกฤษได้ ซึ่งก็โอเค

Hertz บอกว่า  “there is no GPS in English at Jeju location”

Requirement เพิ่มเติม ของการเช่ารถคือ

  • คนขับต้องอายุเกิน 21 ปี
  • นำพาสปอร์ตมาด้วยตอนเช่ารถ
  • คนขับหลักจะต้องจ่ายค่าเช่ารถด้วยเครดิตการ์ด ของตนเอง เมื่อรับรถ  ถ้าไม่มี สามารถใช้บัตรเครดิตของคนที่ไปด้วยได้แต่คนคนนั้นจะต้องอยู่กับคนขับในช่วงระยะเวลาที่เช่า (แปลว่าไปลากเพื่อน ญาติพ่อแม่พี่น้องคนอื่นมารูดบัตรให้ไม่ได้)
  • ผู้ขับขี่จะต้องนำใบขับขี่สากล “Class “B” which is covered 9seats Issued by country should be a part of Geneva or Vienna Convention มาตอนเช่ารถด้วย
  • จะต้องกรอกที่อยู่และเบอร์ติดต่อ ที่ติดต่อได้ สำหรับการเช่ารถ
  • รถที่เกาหลีนั้น เด็กต่ำกว่า 6 ขวบ ต้องใช้ car seat

ระบบของของ Hertz ไม่ค่อยจุกจิกยุ่งยากรวม Additional Driver คนที่ 2 ไว้แล้ว ถ้าคนที่ 3 ถึงจะบวกเพิ่ม และรวมประกันต่างๆ ไว้แล้ว  ในใบจองเขียนว่า รับรถที่ Lvl 1, Jeju International Airport, 855 Yongdam 2-dong, Jeju Island, KR
Mon-Sun 0800-2200

Hertz

ส่วน SixT ราคาแบบจ่ายเลยประมาณ 16 ยูโร ก็ตีซะ 800 บาท ถ้าแบบไปจ่ายตอนรับรถ ก็แพงขึ้นมาเป็น 22.81  ยังไม่บวกออพชั่นให้เลือก ว่าจะขับกี่คน  จะเอา GPS ไหม ที่เช็คดูเบื้องต้น SixT ปิด 20.00 น. ค่ะ ถ้ามาไฟลท์ดึก ก็ไม่สามารถรับรถที่สนามบินได้


2. ทำใบขับขี่สากล

อ่านวิธีการทำใบขับขี่สากล และเอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่ ได้ที่นี่ 


3.วางแผนเส้นทางขับรถเที่ยว Jeju  (Jeju Self-Drive Route)

ความยากของการขับรถเที่ยวเกาหลีคือ…. google map ไม่สามารถใช้การได้ในเกาหลีค่ะ คือเราสามารถเปิดดูพิกัด จุด ที่เราอยู่ได้ แต่บางทีจะมองไม่เห็นรายละเอียดแผนที่ หรือ ไม่สามารถทำเส้นทางได้  ถ้าเราใช้งานจากคอมพิวเตอร์ วางแผนไปก่อน อย่าง Seoul เราจะพอทำเส้นทาง กะระยะเวลาเดินทางได้  ในบางประเทศ เรา street view ไปก่อนคร่าวๆ ได้ แต่  ที่ Jeju นั้น พิเศษกว่า คือ ไม่สามารถทำได้เลย นอกจากปักหมุด เพื่อดูเส้นทางทางเที่ยววางแผนเบื้องต้น  

เวลาที่ใช้ในการเที่ยว Jeju

คนไม่เคยไปเจจูแบบเรา เมื่อไม่มีแผนที่ให้กะระยะทางทำให้การวางแผนเที่ยวเจจู ยากขึ้นไปอีกหน่อย ไม่รู้ว่า ควรจะใช้เวลากี่วัน เพราะบางทีเราลากเส้นดูระยะทางใน google map ก็จริง แต่ไม่สามารถกะระยะเวลาขับรถได้ เพราะเราไม่รู้สภาพถนนที่แท้จริง เวลาขับรถอาจจะใช้ความเร็วไม่ได้ ทางแคบหรือขึ้นเขาลงเขา ผ่านชุมชนแค่ไหน

เท่าที่ดูทัวร์เจจู จะใช้เวลาประมาณ 3 วันรวมเข้าร้าน แต่เราขับรถเที่ยวเอง เลยคิดว่า 3 วันน่าจะไหว เก็บที่เที่ยวที่อยากไปครบ
แต่หลังจากไปแล้วกลับมา เราคิดว่าว่า 3 วันที่เราวางแผนไว้ ออกจะน้อยไปนิดค่ะ ถ้าจะให้แนะนำคนที่จะไปจริงๆ  4 วันเต็ม++ กำลังดีค่ะ  ถ้าใครสายชีล สายธรรมชาติ เพิ่มเวลาเป็น 5-7 วันได้สบายๆ แบบขับรถลัดเลาะทะเลไปเรื่อยๆ

ถ้าใครสามารถอ่านเขียนเกาหลีได้ แนะนำให้ใช้ App  Daum Map / Naver Map ปัก Faverite ไปเลยค่ะ  (ถ้าอ่านไม่ออกก็ก็อบชื่อเกาหลีไปแปะในแผนที่เอา)

การขับรถเที่ยว Jeju

  • สิ่งที่เราจะใช้นำทางหลักๆ คือ เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่นั้นๆ  ซึ่งเราสามารถหาไปก่อนล่วงหน้าได้ ซึ่งตอนรับรถ บริษัทเช่ารถ ให้คู่มือเรามา มีแผนที่เที่ยวคร่าวๆ และเบอร์โทรจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ
  • แวะหยิบโบรชัวร์สถานที่เที่ยวต่างๆ จาก Tourist Information ที่สนามบิน หรือโรงแรม เผื่อไว้เช็คเบอร์โทรศัพท์ อัพเดทอีกทีนึง (กรณีข้อมูลที่เราหามาในเน็ทไม่อัพเดท)
  • สำคัญมากๆ คือ เราควร  Save ชื่อสถานที่ที่เราต้องการจะไป เป็นภาษาเกาหลี เก็บเอาไว้ใน Note  ของ มือถือ  เผื่อใช้เซริช หรือเปรียบเทียบชื่อสถานที่ ใน Navigator หรือเอาไว้สอบถามเส้นทาง
  •  มีบ้างเบอร์โทรของโบรชัวร์ คู่มือท่องเทียว และเน็ทไม่ตรงกัน  ทุกครั้งที่เราคีย์ข้อมูลลงไปให้ ลองเทียบเคียงจากพิกัดและชื่อภาษาเกาหลีในแผนที่อีกทีก็ได้ค่ะ บางทีเป็นจุดใกล้ๆ กัน เช่น พิกัดเป็น Tourist Information ของสถานที่นั้นๆ
  • ต้องเช็คเบอร์โทรโรงแรมที่เราจะไปพักก่อนเดินทางทุกที่!!!  หลายครั้งเราพบว่า เบอร์โทรที่ได้มาจากเว็บจองโรงแรม เช่น Booking โทรแล้วไม่สามารถติดต่อได้ หรือเซริชแล้วไม่มีเบอร์โทรนั้นๆ อยู่ใน GPS   วิธีแก้สถานการณ์ของเราก็คือ เปิด duam map แล้วตั้งพิกัดไปสถานที่ใกล้ๆ แทน (ถ้าอ่านเกาหลีไม่ออกก็ลำบากหน่อย)
  • เว็บการท่องเที่ยว Jeju ให้ข้อมูลที่ดีมากกกกกกกJeju Geopark : สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ของ Jeju  http://jejugeopark.com/english/

เส้นทางขับรถเที่ยว Jeju (Jeju Self-Drive Route)jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

เกาะ Jeju มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า (รึวงรี) แบบในรูปค่ะ  จริงแล้ว ระหว่างทางตามจุดต่างๆ ก็มีที่ท่องเที่ยวกระจายตัวกันอยู่ทั่วไป  แต่เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผน เราแบ่งโซนสถานที่เที่ยว ออกเป็น 5 ส่วน ตามในรูป

บน -ทิศเหนือ เป็นที่ตั้ง สนามบิน และตัวเมือง (มีธรรมชาติ และพวกมิวเซียมที่สามารถขับรถเที่ยวได้ โดยตั้งหลักนอนในเมือง
ซ้าย – ทิศตะวันตก เป็นทะเล (เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ตก)  Halim Park /Osulloc Tea Museum / Aero Space Museum และอื่นๆ
ล่าง – ทิศใต้ มีทะเล / Submarine Tour / น้ำตก / ตัวเมือง Seogwipo และสถานที่เที่ยวธรรมชาติมากมาย
ขวา – ทิศตะวันออก (เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ขึ้น)  มีชายหาด/ seopjikoji / เกาะ Udo และอื่นๆ
กลาง  – เป็นที่ตั้งของอุทยาแห่งชาติ และเขา Hallasan สามารถขึ้นได้จากหลายทิศทางค่ะ

อารมณ์ของสถานที่เที่ยวบนเกาะ Jeju ก็ประมาณภูเก็ต+พัทยา มี Man-made attraction เยอะมาก พวกพิพิธภัณฑ์ และจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหลาย บางที่โบรชัวร์ดูสวยงาม แต่ขับรถผ่านดูเงียบๆ ร้างๆ ไปจนถึงให้อารมณ์ของการพยายามจงใจสร้างขึ้นมาดูดเงินเรา (นึกถึงตลาดน้ำพัทยา ทัวร์ขี่ช้างภูเก็ต อะไรแบบนั้น)  ถ้าจะแวะเที่ยวทั้งหมดจริง คงใช้เวลาเป็นเดือน ขอให้เลือกเอาที่สนใจ เน้นธรรมชาติจะดีกว่าค่ะ

การวางแผนขับรถเที่ยว เราสามารถย้ายที่พักไปได้ตามใจปรารถนา จะวนซ้าย หรือวนขวา รอบเกาะ ก็เลือกเอาตามความชอบใจค่ะ (เราเลือกวนซ้าย)

D 1 : Arrive Jeju City ~ 10.30 pm.
เดินเที่ยวเล่นในเมือง (จริงๆ ถ้าบินถึงเช้า หรือบ่าย จะมีเวลาเที่ยวในเมืองเยอะขึ้นค่ะ) เราออกจาก Seoul ดึก เพราะอยากพักใน seoul ก่อนสักหน่อย
N1 : Jeju City

D2 : West Side
Aewol Road (ถนนเลียบชายฝั่ง) to Bomnal Cafe
จากนั้น ตัดตรงเข้ากลางเกาะ Osulloc Tea Museum (ถ้ามีเวลาแนะนำให้แวะ Aero Space Museum  ด้วยค่ะ พี่ชายไปมาแล้วบอกว่าดีมาก)
เราเลือกตัดจาก Osulloc  ขับลงมาเที่ยวธรรมชาติ ฝั่งใต้เลย ได้แก่ Sanbangsan /Yongmeori Coast/Daepo Jusangjeolli Cliff  N2 : นอน Seogwipo
jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

(เราข้ามที่เที่ยวไปหลายที่มาก แต่เวลา 1 วัน เที่ยวแบบนี้กำลังชีลๆ ขับไปเรื่อยๆ แวะเที่ยว ถ่ายรูป ถ้าใส่สถานที่เที่ยวที่ต้องใช้เวลาเพิ่มเข้ามาอีก เช่น Space Museum / Submarine Tour / น้ำตก Cheonjeyeon Falls หรือเดินเที่ยวในเมือง Seogwipo จะต้องมีเวลามากกว่านี้ค่ะ)

D3  : South- East

จริงๆสามารถแวะเที่ยวน้ำตก Jeongbang และที่เที่ยวอื่นๆ ได้อีกนิดหน่อย แต่วันที่เราไปฝนลงปรอยๆ และอากาศค่อนข้างเย็น เราจึงตัดเข้ากลางเกาะ แวะ Lightning Museum (หนีฝน) และตั้งใจจะขับรถชมวิว Noksan-ro ถนนที่มีดอก Canola + ซากุระ บานพร้อมกัน ก่อนจะตัดออกขวา ผ่าน หมู่บ้านวัฒนธรรม Seongeup Folk Village และ ถึง Seopjikoji ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เดินเที่ยว
jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

N4 : Seongsan Ilchulbong ซึ่งวิวพระอาทิตย์ตกระหว่างทางสวยมากกก ถ้าใครมาแถวน้ี แนะนำมาถึงทันหรืออยู่ดูวิวพระอาทิตย์ตกนะคะ
jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

Option ของแพลนวันนี้ จริงๆ ถ้าไม่มีเด็ก สามารถขับตรงมา Seopjikoji อาจจะแวะเที่ยว Jeju Folk Village หรือ Seongeup Folk Village นิดหน่อย แล้วใช้เวลา ชมวิวแถวๆ Seopjikoji ให้เต็มที่ จะได้มีเวลาเดินชีลๆแถบ Seongsan Ilchulbong ค่ะ

D 4 : North-East

Seongsan Ilchulbong (ไฮไลท์คือ การขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาตอนเช้าค่ะ เผื่อเวลาเดิน 30 นาที++) แต่เราไม่ตื่น ฮ่า…. กว่าจะย้วยขึ้นไปก็สายมากแล้ว เดินลงเขามากินข้าวเช้าควบเที่ยงพอดี
Manjanggul Cave  만장굴
Cafe Daheeyeon in the Cave 다희연 동굴카페
Head to Jeju International Airport
jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car
(ทริปวันนี้หลวมมากๆ ค่ะ ถ้าเที่ยวแบบมาราธอนเอาคุ้ม สามารถแวะ ที่เที่ยวได้อีกสัก 1 แห่ง ระหว่างทางมาสนามบิน เช่น Hamdeok Beach หรือถ้าเราตื่นเช้ามากสามารถไป Udo Island ก็ยังได้นะ แต่ด้วยความที่ไม่เคยไป กะเวลาไม่ถูก กลัวว่าเวลาคืนรถเช่าจะต้องเสียเวลาช่วงพิธีการนาน (จริงๆ ไม่เลย เร็วมาก) รถ  shuttle bus ก็มีตลอด ทำให้เราถึงสนามบินไวกว่าที่คิดเยอะ

เมื่อได้แพลนแล้ว ก็รอวันออกเดินทางค่ะ เผื่อเวลาเดินทางไปสนามบินกิมโป ประมาณ 1 ชม. นะคะ ถ้ามีเด็กสายการบินไม่อนุญาตให้เช็คอินผ่าน app ได้ ต้องไปแสดงตัวอย่างเดียว


การรับรถเช่า

เมื่อจองรถพร้อม แพลนพร้อม ใบขับขี่พร้อม เมื่อเรามาถึงสนามบิน Jeju International Airport รับกระเป๋าเดินออกมาทางออกจะอยู่ประมาณประตู 2 ค่ะ  สามารถติดต่อเค้าเตอร์ตรงนี้แล้ว นั่ง shuttle bus ไปรับรถ ซึ่งไม่เหมือนในใบจองนะคะที่บอกว่า เพราะทีแรกเราเข้าใจว่า ให้รับรถที่สนามบินได้เลย T_T

ขั้นตอนการรับรถ
https://www.lotterentacar.net/eng/short/short_jeju_rent.do

jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Carjeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

แต่……ตอนที่เราเดินออกมาหลังจากรับกระเป๋า เราไม่ทันสังเกตว่ามีเค้าเตอร์รับรถอยู่หลังเสาตรงนี้ (มันเล็กมากจริงๆ ค่ะ เห็นไม๊… โลโก้ hertz ที่อยู่ที่เค้าเตอร์แรก หลังภาษาเกาหลีที่เขียนว่า롯데렌탈 (อ่านว่า Lotte Rent A Car ไม่มีภาษาอังกฤษด้วยซ้ำ)  ป้ายที่เห็นใหญ่กว่าคือ Rental Car Parking Lot ) เราจึงเดินตามป้ายใหญ่มาเรื่อยๆ ค่ะ จนสุดที่ประตู 5  สุด Terminal แล้วยังไม่เห็นมีจุดติดต่อรับรถ จึงถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ได้ความว่า ให้ขึ้นชั้น 2 ข้ามถนนออกไปจาก Terminal เดินไปทางขวามือ จะมีตึกแยกออกไปต่างหาก  (ซึ่งพอเดินขึ้นไปแล้วพบว่าชั้น 2 เป็นชั้นลอย มีแต่ออฟฟิสของสายการบิน ไม่มีทางข้าม  ส่วนชั้น 3 เป็น Departure ไม่มีทางข้ามเหมือนกัน  เดินวนอยู่นานสองนาน จนแบบ ข้ามที่ชั้น 1 นี่แหละ เดินสุ่มไปตามทิศทางที่เค้าบอก เจอตึก stand alone อยู่ แต่!! ไม่มีเค้าเตอร์ให้ติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่คนยืนรอ เหมือนจะรอรับรถ เอ่า ละไงต่อ T_T

เราลองถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น เอาใบจองของ Hertz ให้ดู เค้าบอกว่า ให้ออกไปที่ Platform 9 ขึ้น  shuttle bus ไป พอเดินไปถึงป้ายรถเมล์ มีรถบัสคันใหญ่จอดอยู่แบบเงียบเชียบ คนขับปิดประตูรถไม่สนใจใคร เราต้องเคาะประตู ชี้ๆๆ ยกใบจองให้เค้าดู พอเค้าเปิดประตูมา เราถามว่าใช้ hetz ไหม เค้าบอกไม่ใช่ ชี้คันถัดไป…ถามคันถัดไป บอกไม่ใช่ ชี้ไปอีกคัน  ฮ่วย….
เอาเป็นว่าสังเกตป้าย “Green Car” ในรูปด้านล่างนะคะ จริงๆ ภาษาเกาหลีด้านข้างรถ เขียนว่า  Lotte Rent A Car (คือ เพิ่งจะถึงบางอ้อว่า Hertz  Co กับ Lotte ที่นี่อะ ไม่มีออฟฟิสรับรถของตัวเอง)

รถคันนี้ จะพาเราไปที่ “Jeju Auto House”jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju|Lotte Rent A Car

ยื่นเอกสารต่างๆ ใบจอง ใบขับขี่สากลให้เจ้าหน้าที่ เซ็นต์เอกสารต่างๆ รูดบัตรเครดิต จ่ายเงิน เจ้าหน้าที่จะถามว่า เราจะขับไปไหน พักโรงแรมอะไร  เราจึงส่งใบจองโรงแรมให้ เจ้าหน้าที่จะเขียนลงไปในใบรับรถ เพื่อว่าตอนรับรถ เจ้าหน้าที่จะตั้ง GPS ให้เราไปที่โรงแรมเลย   (ปรากฏว่าเบอร์โทรโรงแรมใน booking เบอร์ไม่ตรงค่ะ Navigator หาชื่อโรงแรมไม่เจอ เจ้าหน้าที่ต้องเซริชหา และใส่เบอร์ให้เราใหม่ สอนการใช้งานต่างๆ) jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี|Rent a car in Jeju

สิ่งสำคัญที่ควรเช็ค เมื่อรับรถ 

  1. เจ้าหน้าทีจะให้กระดาษมา 1 ใบ ที่มีเบอร์โทรฉุกเฉินและ พิกัด เบอร์โทร สำหรับเซ็ทขากลับนำรถมาคืน แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้ เผื่อกระดาษหาย
  2. ถามเจ้าหน้าที่ ว่า GPS ตั้งค่าภาษาอังกฤษ อย่างไร ( GPS ของเราพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ พิมพ์ได้แต่ภาษาเกาหลี ทุกอย่างเป็นภาษาเกาหลีหมด) เกือบลืมถามเหอะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่บอกนะคะ เราต้องเป็นคนถามเอง
  3. ถามวิธีการ เซริชหา ปั้มน้ำมัน จาก navigator ว่าจะต้องกดอย่างไร การเพิ่มพิกัดระหว่างทาง จุดหมาย  A-B-C ทำได้ไหม อย่างไร เพื่อเพิ่มปั้มน้ำมันโดยไม่ต้องออกนอกเส้นทาง
  4. อย่าลืมถามว่า รถใช้น้ำมันประเภทไหน สำคัญมาก!!!!!!  (เราลืมถาม แล้วในรถก็ไม่มีคู่มือรถเลย กลัวเติมผิดชีวิตเปลี่ยน โชคดีที่ขับเที่ยวรอบเกาะ 4 วัน ใช้น้ำมันไปแค่ครึ่งถัง สบายๆ กลับมาคืนพร้อมกับให้เค้าคิดค่าน้ำมัน ซึ่งเติมเองอาจจะถูกกว่า)
  5. ตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น ตำหนิ ต่างๆ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ เรียนรู้ วิธีปรับที่ปัดน้ำฝน เปิดไฟหน้า ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในรถ

ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าอ่านภาษาเกาหลีได้ จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นขึ้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องเสียเวลาใช้ google แปลภาษา ลำบากหน่อยค่ะ


รู้ไว้ก่อนเดินทาง ขับรถเที่ยว Jeju ด้วยตนเอง (Tips & Trick for Jeju Self-Drive)

  • Sim2Fly ใช้งานที่ Jeju ได้โอเค (ดีกว่าที่คิด นึกว่าต่างจังหวัดจะไม่ค่อยมีสัญญาณเสียอีก)
  • เกาหลี ขับรถพวงมาลัยซ้าย (เลนขวา)  ซึ่ง ตรงข้ามกับประเทศไทยค่ะ
  • ไม่มี toll way ไรให้ขึ้นนะ ขับรถเลาะๆ มีทั้งถนนใหญ่ และ 2 เลนสลับกันไป ในเมืองรถเยอะ รถติดบ้าง แต่นอกเมืองขับสบายๆ ค่ะ
  • เลี้ยวขวาส่วนมากผ่านตลอด เลี้ยวซ้ายให้ดูสัญญาณไฟ ซึ่งแตกต่างจากบ้านเรา

jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี

ต้องรอสัญญาณไฟลูกศรเลี้ยวซ้ายแบบนี้ ถึงจะเลี้ยวได้นะคะ !!!! ต่างจากประเทศไทยนะ เราแหกโค้ง Need for Speed มาแล้ว รถที่สวนเลนมา บีบแตรกันกระหน่ำ หักหลบซิกแซกๆ จนผ่านพ้นแยกไปได้ เสียวจะโดนใบสั่งตามไล่หลังมาถึงบ้านมากๆ jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี

  • การใช้ GPS ให้ใส่เบอร์โทรลงไป แล้วเลือกจุดหมายปลายทาง บางครั้งอาจจะแสดงผลขึ้นมามากกว่า 1  ที่ ถ้าอ่านไม่ออก ก็คงต้องสุ่มเลือก หรือ เช็คกับแผนที่ในมือถืออีกทีค่ะ

jeju self-drive| Driving in Jeju |ขับรถเที่ยวเกาหลี


เตรียมตัวพร้อมทุกอย่างแล้ว แพลนก็พร้อม รถก็พร้อม เอาล่ะ เริ่มต้นสำรวจ Jeju  ไปพร้อมๆ กันได้เร้ยย…..

Comments

comments