เป็นคำถามที่มีคนถามมาบ่อยมากๆ เหมือนกันค่ะ เน็ตนี่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายของชาว Backpack ขาดเน็ตเหมือนขาดใจ ตาบอดคลำทางยังไง ยังงั้น ย้อนหลังสัก 3-4   ปีก่อน เราอาจจะยังมีทางเลือกไม่มากนัก  เช่น ถ้าจะเดินทางไปญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง หรือประเทศใดก็ตามต้องไปนั่งเซริชหาดูว่า จะเลือกใช้บริการ data package แบบไหน มีทั้งของค่ายมือถือจากไทย เปิด  roaming ไป หรือไปซื้อซิมของประเทศนั้นๆ เอา สมัยก่อน จะมี True / AIS ที่พอจะมีแพคเกจแบบ Unlimit เหมาวัน ให้เลือกใช้ True นี่ราคาพอจับต้องได้ AIS นี่แพงเอาการ  ส่วน Dtac ไม่ต้องพูดถึง ณ วันที่ สองค่ายแรกเค้า unlimit data  ไปชาติเศษ dtac  ยังจำกัดข้อมูลอยู่แค่ไม่กี่ MB อ่ะ!!  แถมทุกๆ อันมีความเสี่ยงที่จะมีเน็ตหลุด เน็ตรั่ว แทนที่จะจ่ายตามแพคเกจ มือถือเจ้ากรรมดันไปจับสัญญาณค่ายอื่น เน็ตไหลเสียเงินบานโดยไม่ได้ตั้งใจ (เราเคยอะ ไปญี่ปุ่น ต่างจังหวัด ขึ้นเขาลงห้วย มุดอุโมงค์ แล้วเน็ตหลุดเป็นระยะๆ ค้างบ้างไรบ้าง ต้องปิดเครื่องเปิดใหม่ พอเปิดเครื่องมามันจับสัญญาณอัตโนมัติ ค่ายอื่น โดนไปหลายพันบาท เถียงอยู่กับค่ายนานมากกกกก ว่าเฮ้ย งี้ได้ไง เสียรมณ์~ )
อีกทางเลือกในการเดินทางยุคนี้ คือ การเปิดใช้บริการ pocket wifi  ของประเทศนั้นๆ ที่เราเดินทางไป อาจจะเช่าไปจากประเทศไทย หรือติดต่อเช่าที่สนามบินปลายทาง หรือ ตามร้านผู้ให้บริการประเทศนั้นๆ (แปลว่าต้องไปถึงจัดการออกจากสนามบิน ณ เวลาทำการของเค้าเตอร์แบรนด์นั้นๆ  หรือ หาทางเอาตัวรอดไปให้ถึงร้านตามแหล่งท่องเที่ยว ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้)  ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีหลายบริษัทที่ให้บริการ Pocket Wifi เข้ามาเยอะแยะมากมาย แข่งโปรโมชั่นตัดราคากันสะบั้นหั่นแหลก เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

เราจะขอเขียนเล่าแบบบ้านๆ คนใช้งาน ไม่ได้รู้เรื่องราวเทคนิค แต่มาจากประสบการณ์ล้วนๆ นะคะ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดหรือใครมีประสบการณ์ที่แตกต่างยังไง ฝากคอมเม้นท์เอาไว้ด้วยค่า

สมมติว่า จะไปญี่ปุ่น แล้วต้องการใช้เน็ต  เรามีทางเลือกอะไรบ้าง

1.  เปิด Data Roaming เบอร์ที่เราใช้ตามปกติใช้จากไทยไป ไม่ว่าจะค่ายใดก็ตาม เราก็เสียเงินตามแพคเกจของแต่ละค่าย เช่น

  • Dtac  : 3 วัน 870 บาท ตกวันละ 290 บาท  5 วัน  1400 บาท ตกวันละ 280 บาท ราคาไม่รวม VAT 7%  ในเว็บไม่ได้บอกปริมาณข้อมูลว่า  unlimit จริงไหม หรือมีลด speed เมื่อใช้ปริมาณดาต้าเกินกำหนด
    ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ : https://www.dtac.co.th/postpaid/services/roaming/package/unlimited.html#Tab2
  • True : ตกวันละ 99 บาท  จัดว่าถูกสุดในบรรดา 3 ค่าย
    ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ : http://truemoveh.truecorp.co.th/international_service/travelling_abroad
  • AIS :  มีหลายแพคเกจให้เลือก  10 GB 10 วัน 1440 บาท  หรือรายวัน 3 วัน 5 วัน ใช้น้อยๆ แพงกว่าค่ายอื่น แต่ 5 วัน ราคาเท่ากันกับ Dtac
    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : http://www.ais.co.th/roaming/package-0.html

ข้อดี คือ

  • มีเน็ตพร้อมใช้งานทันที เมื่อเครื่องลงจอด
  • ญาติ พ่อแม่พี่น้อง เจ้าหนี้ ลูกค้า สามารถติดต่อเราที่เบอร์เดิมที่ใช้ในประเทศไทยได้ตลอดเวลา โทรเข้าก็เสียเงิน โทรออกก็เสียเงิน ตามแพคเกจ  ถ้ามีคนโทรเข้าจะต้องปล่อยให้ดังจนสายตัดไปเอง ถึงจะไม่เสียเงิน!! ซึ่งถ้าเป็นเบอร์ใช้ติดต่องานแล้วคนโทรเข้าเรื่อยๆ จะเที่ยวไม่เป็นสุข

ข้อเสียคือ

  • ราคาสูงกว่าทางเลือกอื่นๆ
  • ถ้าเราเผลอเมื่อไหร่ ไม่ได้ตั้ง เลือกค่ายแบบ Manual หรือปิดแล้วเปิดเครื่องหรือความผิดพลาดอันใดก็ตาม ทำให้มือถือดันไปจับสัญญาณค่ายอื่น ที่เค้าไม่ได้ระบุไว้  จะเกิดอาการ เน็ตรั่วบานนน..คิดเรทที่แพงมากๆ (สมัยนี้ยังเป็นงี้อยู่ป่าว หรือว่าเค้าสามารถล็อคได้แล้ว เพราะอ่านในเว็บหลายค่ายทำได้ว่าไม่ให้ไปจับสัญญาณค่ายอื่น)
  • ต่างคนต่างเปิดใช้บริการ ของใครของมัน

2. ซื้อซิมของประเทศนั้นๆ ใช้   อย่างซิมญี่ปุ่น ฮ่องกง มีบริษัทหลายแห่งที่ให้บริการ นำมาขายในไทย ราคา เช่น 7 วัน 4G ไม่อั้น 599 บาท โดยส่วนตัวเรามีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี กับการซื้อซิมต่างประเทศที่ขายในไทยมาใส่เครื่องตัวเอง ไม่ว่าจะเอเชีย ยุโรป คือ มันเซ็ทยากมากกก ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา ต้องตั้งค่า APN ที่คนขายบอกว่าง่าย ทำไม่ยาก แต่พอทำจริงๆ เราเจอว่า ซื้อซิม 2 อัน ใส่ เครื่องสองเครื่อง ก็คนละอาการ กว่าจะแก้ใช้งานได้ ผ่านพ้นไปเป็นวัน  ต้องกลับมา รร. นั่งแชทกับคนขาย โว๊ะ กว่าจะได้

ข้อดีคือ

  • ซื้อไปจากประเทศไทย อุ่นใจไว้ก่อน ใช้ได้หรือไม่ได้ ต้องเสี่ยงดวงเอานิดนึง
  • ใช้งานได้อิสระ เครื่องใครเครื่องมัน เดินแยกกัน แล้วนัดหมาย โทรหากันได้สะดวก

ข้อเสียคือ

  • ไม่เหมาะกับมนุษย์ low tech ที่อาจจะไม่ค่อยมีความอดทน
  • ประสบการณ์ส่วนตัว ใช้ที่ญี่ปุ่น เช้าๆ ก็เน็ตเร็วดี พอเย็นเท่านั้นแหละ เน็ตกากขึ้นมาทันที เป็นทุกวัน ทั้งทริป
  • บางอัน ถ้าไปซื้อที่ประเทศปลายทาง อาจจะต้องลงทะเบียนด้วยพาสปอร์ตต่างๆ นาๆ ภาษาอาจจะเป็นอุปสรรค์ ถ้าไม่ได้ทำที่สนามบิน
  • บางที message จากระบบเข้ามาเป็นภาษาจีนบ้างไรบ้าง อ่านไม่ออก ต้องก็อบไปแปลใน google translate

ยกเว้นซิมฮ่องกง นี่ดี ใช้งานไม่ยาก เชื่อใจได้ ราคาถูก เสียแต่เมสแสจต่างๆ มาเป็นภาษาจีน -__-”  เราซื้อซิมมาหลายปีก่อน one2free  รุ่นเก่า เติมเงินซ้ำเข้าไปได้  เติมครั้งละประมาณ 100$ (ราวๆ 500 บาทไทย) เราเข้าไปเติมในเว็บไซต์ก่อนเดินทาง ถึงโน่นเปิดใช้งาน กดรหัสสมัครแพคเกจและใช้ได้เลย แต่ซิมใหม่ๆ เหมือนจะเป็นใช้แล้วทิ้ง ต้องลงทะเบียนใช้งาน

ส่วนซิมสิงคโปร์ Singtel และอื่นๆ ก็ใช้ได้ค่ะ แต่แอบแพง 30$++  (x25 บาท ราว 750 บาท++)

ถ้าใครมีประสบการณ์ดีๆ กับซิมค่ายใด ประเทศไหน  แนะนำกันมาได้นะคะ เผื่อจะลองใช้ตาม


3. Pocket Wifi ออกตัวด้วยความ bias ว่า เนื่องจาก Backpackbuddy เอง มี Partner และเป็น agent ให้กับ Samurai Wifi  เราก็จะไม่ขอเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นมากนัก เพราะเคยใช้อยู่ไม่กี่ยี่ห้อ และจากประสบการณ์ส่วนตัวการใช้งาน   รู้สึกว่า Samurai นี่ มีเครื่องจำนวนมาก พร้อมให้บริการ รับคืนเครื่องที่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ไม่ยาก ไม่ต้องมีค่ามัดจำเครื่องไรให้ยุ่งยาก ลูกค้าทุกคนใช้บริการ มีเสียงตอบรับที่ดี ยังไม่มีใครด่ากลับมาให้ระคายหู   ราคาก็ไม่ได้แตกต่างจากท้องตลาดมากนัก (พวกโปรถูกมากๆ เราก็ไม่กล้าเสี่ยง จะเอากำรี้กำไรมาจากไหน เกิดเครื่องไปพังหรือมีปัญหาที่ญี่ปุ่น จะสามารถแก้สถานการณ์ช่วยเหลือได้หรือไม่)  แต่สำหรับเจ้านี้ ยังไม่เคยเจอลูกค้าเครื่องพังนะ อาจจะมีปัญหา ก็สามารถแก้ไขสอบถามผ่าน Line หรือ ถ้ามีปห. จริงๆ เค้าสามารถส่งเครื่องไปรอที่ รร. ที่เราจะไปพัก ได้เลยค่ะ

ราคาปรกติ 200-250 บาท/วันแล้วแต่เครื่อง และสัญญาณที่ใช้ คือ ถ้าเที่ยวในเมือง โตเกียว โอซาก้า ไม่ได้ไปไหน ก็ใช้เครื่องราคาถูก 200 บาทต่อวันได้ แต่ถ้าไปต่างจังหวัด เดินทางหลายเมือง เค้าก็จะแนะนำให้ใช้เครื่องแพง สัญญาณ au ราคา 250 บาทต่อวัน
วันที่ 8 ขึ้นไปราคา 100 บาท มักจะมีโปรมาเรื่อยๆ งานท่องเที่ยว หรือ TITF เหลือวันละ 179 บาท

ของบริษัทอื่นก็ราคาไม่หนีกันมากนัก อาจจะมีมัดจำค่าเครื่อง และการบริการที่แตกต่างกันไป

ข้อดี

  • พกเครื่องไปจากไทย อุ่นใจ ใช้งานได้ทันที
  • ใช้งานแบบหมู่ รุมกันได้มากสุด 10 devices  จะไอแพด ไอโฟน ซัมซุง รุมกันต่อได้
  • ค่าใช้จ่ายหารๆ กัน หลายคน ประหยัดดี
  • ใช้ง่าย เหมือนต่อ wifi

ข้อเสีย

  • คิดราคารายวัน ซึ่งถ้าไปหลายๆวัน ก็อ่วมอยู่ ถ้าหากคนหารน้อย
  • คนที่แชร์เน็ตกัน จะต้องเดินตัวติดกันไปเป็นแพค เดินแยกกันไม่ได้  เดินอยู่ร้านเดียวกัน คนนึงชั้น 1 อีกคนชั้น 2 นี่ไม่ได้แล้วนะ ไกลเกิน
  • เน็ตบอกว่า unlimit ต้องเช็คกับผู้ให้บริการแต่ละเจ้าว่า unlimit จริงไหม บางเจ้าจริงๆ  limit อยู่แหละ คือเค้าให้ปริมาณ data มันเยอะมาก 10GB ไรงี้ (ที่เคยรู้มา) ถ้าเกินปริมาณที่กำหนด speed จะต่ำลง แล้วคือเค้าคิดปริมาณต่อทริป ใครไปทริปยาวๆ ก็ต้องระวังนิดนึง วันท้ายๆ เน็ตกาก แสดงว่าใช้ดาต้าเกิน
  • บางยี่ห้อหากรุมกันต่อหลายๆ เครื่อง เน็ทอาจจะช้า และเครื่อง pocket wifi ร้อน หรือแบทหมดเร็ว หรือค้าง ถึงแม้ spec จะบอกว่า ต่อได้มากสุด 10 เครื่องก็ตาม
  • pocket wifi ราคาจะแล้วแต่ประเทศที่เราไป อย่างเกาหลี ไต้หวัน ถ้าจองจากไทยไป อาจจะวันละ 250-300 บาท  เดินทาง 10 วัน ปาเข้าไป 3000 ถ้าใช้ sim2fly 2-3 คน จะอยู่ที่ 1400-2100 บาท เองค่ะ(ซื้อแพคเน็ท 8 วัน 2 ครั้ง = 350×2 ต่อคน ใช้งานได้ 16 วัน)

4. AIS Sim2Fly  ทางเลือกนี้ เรายังไม่เจออะไรที่เทียบเท่า จึงขอแยกออกมา เป็นตัวเลือกที่ดี ใช้งานง่าย ราคารับได้ แต่ว่าหลายคนไม่ค่อยรู้ จึงอยากเอามาแนะนำไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
Sim2Fly เป็น”ซิม” พิเศษเหมาะสำหรับใช้งานในต่างประเทศ (หรือในประเทศก็ใช้ได้ ตามแพคเกจที่กำหนด) ถ้าหากเราใช้มือถือ AIS อยู่แล้ว Sim2Fly นี้ ไม่เกี่ยวกับเบอร์เดิม  คือ ต้องซื้อใหม่เท่านั้น โดย สามารถซื้อได้ที่ เค้าเตอร์ AIS ทั่วไป/ หรือที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 /  สนามบินดอนเมือง ชั้น 1  หรือซื้ออนไลน์ก็ได้ โดยซิมจะแยกชนิดตามโซนประเทศ ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป&USA และ ประเทศอื่นๆ

  • Sim2Fly : เอเชีย ราคาซื้อครั้งแรก 399 บาท ใช้งานได้ 8 วัน เน็ต 3GB
    ครอบคลุมการใช้งานประเทศ 1. ญี่ปุ่น  2. เกาหลีใต้  3. สิงค์โปร์  4. มาเลเซีย  5. ฮ่องกง  6. ลาว  7. อินเดีย  8. ไต้หวัน  9. มาเก๊า 10. ฟิลิปปินส์ 11. กัมพูชา 12. พม่า  13. ออสเตรเลีย
  • Sim2Fly :  ยุโรป&USA ราคาซื้อครั้งแรก 899 บาท ใช้งานได้ 15 วัน เน็ต 3GB
    ครอบคลุมการใช้งานประเทศ 1. สาธารณรัฐเช็ก  2. เยอรมัน 3. กรีซ 4. ฮังการี 5. อิตาลี 6. เนเธอร์แลนด์ 7. สเปน 8. สหราชอาณาจักร (อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลล์, ไอร์แลนด์เหนือ) 9. ฝรั่งเศส 10. ออสเตรีย 11. อเมริกา 12. ฮ่องกง
  • Sim2Fly : ประเทศอื่นๆ  ราคาซื้อครั้งแรก 199  บาท พร้อมใช้งาน 30 วัน เน็ต 20MB

ต้องขอชมเชย AIS ที่ทำการบ้านกับ user มาดีมาก เพราะคนทั่วไปเที่ยวโซนเอเชียใกล้ๆ ทริปมักจะราวๆ 7-8 วัน  ยุโรปก็ไปยาวๆ 12-15 วัน ลูกค้าไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องใช้สมอง ใส่ซิม ใช้งานได้เลย (activate sim ครั้งแรกครั้งเดียวพอ)

ข้อดี

  • หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง
  • เก็บไว้ใช้งานครั้งต่อๆ ไป ที่เดินทางไปประเทศต่างๆ ในโซนนั้นๆ ได้
  • ใช้งานได้อิสระ เครื่องใครเครื่องมัน เดินแยกกัน แล้วนัดหมาย โทรหากันได้สะดวก โทรกลับไทยก็ไม่แพงมาก
  • AIS จับมือกับค่ายมือถือใหญ่ของประเทศนั้นๆ เช่น softbank / vodafone ยังไม่เจอปัญหาเรื่องสัญญาณ
  • จะใช้เบอร์ Sim2Fly เป็นเบอร์ประจำเลยก็ได้นะ
  • เปิดเครื่อง สามารถใช้งานได้ทันที ไม่มีเน็ตรั่วไหล เพราะถ้าจับสัญญาณผิดค่าย  จะไม่สามารถต่อเน็ตได้ พร้อมกับมีแมสเสจแจ้งเตือนว่า ผิดค่ายนะ “You are on the wrong network. Please reselect the correct network or contact AIS +6622719000”

ข้อเสีย

  • ไปหลายๆ คนถ้าซื้อซิมคนละอัน ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่าใช้ pocket wifi
  • การเติมเงินเข้าซิมในต่างประเทศ จะยากสักหน่อย คือ ต้องทำผ่านเว็บ AIS จึงจะสะดวกสุดแต่ ถ้าเราทำผ่าน internet banking/mobile banking หรือบัตรเครดิตถึงแม้จะจ่ายผ่านเว็บ AIS ก็มักจะติดปัญหาว่า ธนาคารจะส่ง OTP มา ที่เบอร์ที่เราใช้ปกติ จบเห่กันไป เติมเงินได้ไม่ เดือนร้อนต้องหาเพื่อนที่อยู่เมืองไทย ช่วยเติมเงินให้ (ซึ่ง 7-11 ก็เติมไม่ได้แล้ว) ดังนั้น จึงควรเติมเงินให้เพียงพอต่อการใช้งานและเผื่อเอาไว้จำนวนหนึ่งค่ะ
  • จากประสบการณ์การใช้งานเปิดใช้งานครั้งแรกจะใช้งานเน็ตในประเทศไทยไม่ได้นะคะ เพราะในซิมไม่มีเงินอยู่เลยหรือถ้ามีเงินแต่เราไม่ได้สมัครแพคเกจเน็ตของไทยไว้ อาจจะเกิดการเน็ตจะไหล เงินหายพรวดๆ ได้  ก่อนบินถ้าจะใช้เน็ท หลังจาก activate แล้วก็ต้องเปลี่ยนกลับมาใช้ซิมเบอร์ที่เราจะใช้ประจำ มีความลำบากเล็กน้อย จะบอกว่า ครั้งแรกที่ซื้อซิมมาใช้ เพราะเปลี่ยนกลับไปกลับมานี่แหละซิมหล่นหายที่สนามบิน รู้ตัวอีกที ตอนบินไปถึงปลายทางแล้ว เสียเงินค่าเน็ทฟรี~ พอกลับมาไปขอทำซิมใหม่ เกือบจะทำไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่บอก เป็นซิมพิเศษ (หรอ)  คุยไปคุยมา ออกใหม่ได้ เลยประหยัดไป 50 บาท เอามาใช้งานครั้งต่อไป

วิธีการใช้งานครั้งแรก  : เดินไปซื้อซิมมา พอจะเดินทาง ตอนที่อยู่ประเทศไทย ให้เราใส่ซิมลงในเครื่อง โทรออกเบอร์ไหนก็ได้ 1 ครั้ง เพื่อ activate  ซิม จากนั้น จะมีแมสเสจเข้ามาในเครื่อง ว่า “หมายเลขของคุณได้ลงทะเบียนผู้ใช้บริการเติมเงินเรียบร้อยแล้วค่ะ”
** ขั้นตอนการ activate sim ในเว็บ AIS บอกว่า ให้ไปทำที่ต่างประเทศได้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งตอนซื้อบอกให้ทำจากเมืองไทยก่อนออกเดินทาง อันนี้เลยไม่รู้ว่าจริงๆ ต้องทำที่ไหน 

จากนั้น ก็จะมีข้อความต่อมาว่า “Your data roaming charge beyond package from beginning of current month til dd/mm/year about 0 bath”   ไม่ต้องไปสนใจ คือ ซิมที่เราซื้อมา มูลค่า 399 นั้น มันไม่มีเงินอยู่ในซิมเลยนั่นเอง แต่ราคานี้ ได้รวมแพคเกจการใช้งานเน็ต 3BG 8 วัน 3GB  เข้าไปแล้วค่ะ

ข้อความต่อมาที่เราจะได้รับคือ “Your full speed of non-stop dataroam sim2fly 3BG 8 day package has about 3GB 0.0MB remaining. After used up get unlimited usage at reduced speed based on your package. Valid til dd/mm/year  hr:min Thailand Time”  นับจากนี้ไป 8 วัน รวมวันและเวลาเดินทางของเราด้วย คือ เราจะมีเน็ตใช้ เริ่มต้นวันที่เปิดใช้งาน และหมดวันที่เท่าไหร่ เวลาอะไร หากเราใช้งานแค่ดูแผนที่ google map  เล่นเฟสบุ๊ค เช็คเมล์ เปิดเว็บทั่วๆไป สามารถใช้งานได้เพียงพอแบบเหลือๆ ค่ะ

*** ขึ้นตอนการเปิดใช้งานซิม ควรทำก่อนเดินทาง ที่สนามบินประเทศไทยนะคะ เพราะ ซิมจะเริ่มต้นใช้งาน นับวันทันที  และถ้าจะเดินทางยาวเกิน 8 วัน ให้เติมเงินไป และเมื่อถึงวันที่ 8-9 ค่อยกดรหัส สมัครแพคเกจ เน็ทเพิ่ม ไม่ต้องสมัครไปก่อนตั้งแต่ตอนแรกค่ะ (พอดีเราไปอ่านเจอกระทู้ในพันทิบ มีคนมาบ่นเอาไว้ว่า AIS แจ้งไม่ชัดเจน ตอนเราไปซื้อ เค้าก็อธิบายชัดเจนอยู่นะ แต่รายละเอียดมันเยอะ อาจจะทำให้สับสนได้)

นับจากวันที่เปิดใช้งานครั้งแรก ตัวซิมจะมีอายุ 3 เดือน ถ้าเราไม่ใช้งาน มันก็จะปิดไป แต่!!! สำหรับชาว backpackbuddy อย่างเราเที่ยวถี่ เที่ยวบ่อย แนะนำว่า ให้เก็บซิมไว้ใช้งานครั้งต่อๆ ไป (ประหยัดเงินไป 49 บาทไม่ต้องซื้อซิมใหม่) โดยใช้เทคนิคดังนี้

  • ทุกๆ ครั้งที่เราเติมเงินลงไปในซิม จะกี่บาทก็ตาม ซิมจะยืดอายุออกไป 1 เดือน  เราก็ลองคำนวนดูว่า ทริปต่อไปของเรา จะอีกนานไหม ถ้าไม่กี่เดือน ให้ทะยอยเติมเงินลงไป ทีละ 20-30-50-100 บาท ตามอัธยาศัย  เวลาของซิมจะบวกเพิ่มไปครั้งละ 1 เดือน ไม่ว่าจะเติมเงินต่อครั้งเท่าไหร่ก็ตาม
  •  เทคนิคการเติมเงิน ที่สะดวก และง่าย คือ เพิ่มเบอร์เข้าไปใน ฟังก์ชั่นจ่ายบิล ของ ธนาคารออนไลน์ที่เราใช้ประจำ  (หรือ mobile banking) จากนั้น เติมทีละ 20 ๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่มีค่าธรรมเนียม เติมหลายๆ ครั้งนี่ช่วยยืดอายุซิมไปได้เป็นปี  (แต่จะมีแบบอั้นมากสุดกี่เดือนไม่แน่ใจ พอมันขยายได้สุดระยะเวลาที่ขยายได้ เราก็หยุด ไว้เติมใหม่วันหลัง)

วิธีการใช้งานครั้งต่อๆ ไป (หรือเดินทางนานเกิน 8 วัน) ก็ใช้ซิมเดิมนี่แหละแต่จะมีแพคเกจของโซนนั้นๆ เอเชีย ยุโรป ให้เติมเงินเข้าไปในเบอร์ให้พอต่อการสมัครแพคเกจ บวกเพิ่มไปอีก 20-30 บาท กันเหนียว (ถ้าอยู่ต่างประเทศ แล้วกลัวเงินไม่พอให้ซื้อบัตรเติมเงินพกไปด้วย อย่าชะล่าใจ คิดว่าเงินพอนะคะ เผื่อฉุกเฉินเราใช้โทรศัพท์โทรหาคนโน้นคนนี้  แล้วเงินไม่พอ หากต้องเติมเองเวลาเดินทางอาจจะลำบาก เพราะ ต้องใช้ OTP ไม่ว่าจะบัตรเครดิต หรือ internet banking ต้องเปลี่ยนซิมกลับให้วุ่นวาย)

จากนั้นก่อนขึ้นเครื่อง หรือไปถึงแล้วให้เรากด *111*354* โทรออก หากเราจะไปญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ก็สมัครแพคนี้  350 บาท 8 วัน 3GB

sim2fly |data roaming | japan pocket wifi |internet sim

ไปยุโรป อเมริกา ใช้แพคนี้
sim2fly |data roaming | japan pocket wifi |internet sim

**ล่าสุด เพื่อนเอา Sim2Fly เอเชีย ไปยุโรป (ฝรั่งเศส) เติมเงินเข้าไปจากไทย  850 บาท แล้วเรา(อยู่ประเทศไทย) โทรถาม call center 1175  ให้ว่า ใช้งานเน็ตได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกใช้ได้ เปิดแพคทางโทรศัพท์ให้ได้เลย  แพคเกจนี้แหละ 850 บาท 15 วัน เราเลยงงๆ ว่า ตกลง จะต้องแยกซิม ยุโรป เอเชียไหม เพราะมันใช้ได้เหมือนกันซะงั้น (เนื่องจากเราเดินทางค่อนข้างบ่อย หลายภูมิภาค ตอนซื้อซิมทีแรกเราถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า ถ้าไปยุโรป หรืออเมริกา จะต้องซื้อซิมใหม่ ไม่สามารถใช้ซิมเอเชียได้)


ลองเปรียบเทียบราคา ระหว่าง Sim2Fly (ใช้งานครั้งแรก) กับ Pocket Wifi ในกรณีเดินทางระยะเวลาต่างๆ กัน 5-8-12 วัน และ จำนวนผู้ร่วมเดินทางต่างๆ กัน จะเห็นว่า ถ้าหากเราไป ทริป 1-2 คนกับเพื่อน ใช้ซิมจะราคาถูกกว่า หรือ แพงกว่าแบบพอรับได้ แลกกับอิสระในการเดินเที่ยว แต่ถ้าไปหลายๆ คน Pocket Wifi จะถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด

แต่ว่า ในความเป็นจริง ถ้าเราไปหลายคน ต้องดูด้วยว่า เราจะเที่ยวตัวติดกันกับเพื่อน ขนาดที่แชร์เน็ตกันได้ตลอดเวลามากน้อยแค่ไหน อยากได้ความคล่องตัว หรือไม่  ถ้าใช้ Sim2Fly อาจจะตอบโจทย์กว่า ถ้าไปครอบครัว พ่อแม่ลูก คุณปู่คุณย่า ที่เดินไปพร้อมๆกัน  pocket wifi ก็อาจจะเหมาะกว่าค่ะ
sim2fly |data roaming | japan pocket wifi |internet sim

สนใจจอง Pocket Wifi สามารถกรอกรายละเอียดได้ตาม ที่นี่  นะคะ (กรุณาเตรียมภาพถ่ายหรือสำเนาหน้าพาสปอร์ตให้พร้อมก่อนกรอกรายละเอียด)

Comments

comments